ปัญหาการสื่อสารระหว่างนักพัฒนาและเจ้าของธุรกิจนั้นมีมานาน ผ่านมาในอดีตปัญหานี้ส่งผลค่อนข้างมาก และทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเข้าถึงแนวคิดการทำงานร่วมกันได้ โดยเฉพาะเรื่องทางเทคนิค เหตุผลก็คือ เจ้าของธุรกิจ ก็คือ คนที่ไม่ได้ใช้เทคนิคทางโนโลยี และบางครั้งปัญหาก็คือ ทัศนคติที่เชื่อมั่นตนเองของนักพัฒนาซอฟท์แวร์เอง
ปัจจุบันนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากชึ้น เมื่อเทคโนโลยีเข้าถึงได้มากขึ้น กระบวนการด้านนี้ได้ถูกพัฒนาดีขึ้น การเรียนรู้ที่จะสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับนักพัฒนาซอฟท์แวร์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะงานด้านเทคโนโลยีซึ่งถ้าเจ้าของธุรกิจเลี่ยงที่จะไม่ทำเช่นนี้ จะทำให้เสียเวลาและงบประมาณโดยไม่จำเป็นอย่างแน่นอน และอาจนำไปสู่ความล้มเหลวของการทำโครงการต่างๆ ในเวลาต่อมา
1.ความชัดเจนเรื่องความคาดหวังของการทำโครงการ
เจ้าของธุรกิจควรมีความชัดเจนเกี่ยวกับความคาดหวังสำหรับผลลัพธ์สุดท้ายของโครงการที่ทำ เพราะแนวคิดหรือขอบเขตนั้นจะส่งผลกระทบต่อโครงการด้านเทคนิคมากมาย แนวคิดเรื่องคุณลักษณะต่างๆ ของซอฟท์แวร์นั้นจะถูกวางแผนการและกำหนดขอบเขตตั้งแต่ขั้นตอนแรก ส่วนฟีเจอร์ต่างๆที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องละเอียดปลีกย่อยนั้น เช่น ปุ่ม หรือวิดเจ็ตใหม่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ต้องใช้ระยะเวลานานมากในการติดตั้งและมีกระบวนการ (และสามารถทำให้ต้องใช้เวลาทำงานมากขึ้นและใช้แรงงานมากขึ้นขณะดำเนินการพัฒนา) หากเจ้าของธุรกิจต้องการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องแจ้งและร้องขอโดยเร็วที่สุด
2.เปิดใจและรับฟัง
การสื่อสารกับทีมพัฒนาซอฟท์แวร์ แบ่งได้เป็นสองทาง ผู้ประกอบการที่ยึดติดหรืออาจจะมีความคิดจมอยู่กับการกำหนดลักษณะผลิตภัณฑ์ของตนเอง บางทีอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ ควรเปิดใจรับฟังข้อเสนอแนะที่สำคัญจากทีมพัฒนาซอฟท์แวร์ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นไปได้และระยะเวลา
การประเมินต้นทุนการดำเนินการได้อย่างแม่นยำสำหรับโครงการจัดทำซอฟต์แวร์นั้นเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นสิ่งที่นักพัฒนาที่ดีก็ควรต้องทุ่มเทอย่างหนัก ทีมพัฒนาซอฟท์แวร์ควรมีความเชี่ยวชาญ และให้ข้อเสนอแนะที่ชัดเจนและซื่อสัตย์ เมื่อประสบปัญหาความล่าช้าหรือมีความผิดพลาด ปฏิกิริยาตอบกลับของผู้ประกอบการต่อข้อเสนอแนะก็มีความสำคัญต่อการสื่อสารกับนักพัฒนาซอฟท์แวร์ในอนาคต เป้าหมายก็คือ ควรมุ่งเน้นสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อแก้ไขผลกระทบจากความล่าช้าและหลีกเลี่ยงการจับผิดจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
3.ข้อควรจำที่สำคัญที่สุด ก็คือ ผลงานต้องคุ้มค่ากับสิ่งที่ลูกค้าจ่ายไป
นักพัฒนาซอฟท์แวร์ไม่ควรมีข้อยกเว้นต่างๆ สำหรับแนวความคิดที่ผ่านการทดสอบและเห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่ายแล้ว โครงการนี้ควรถูกการพัฒนาเพื่อให้เกิดการทำได้จริงตามข้อตกลง และเจ้าของธุรกิจก็สมควรจะได้รับงานที่คุ้มกับงบประมาณที่พวกเขาจ่ายจริง ๆ โดยมีข้อยกเว้นน้อยมาก หรือ ไม่มีเลย สำหรับทีมงานอื่นๆที่คิดค่าบริการแบบชั่วโมง หรือ รายวัน อาจฟังดูน่าสนใจมากกว่า หรือ ดูเหมือนว่าจะจ่ายน้อยกว่าปกติ แต่หากโปรเจ็คไม่สามารถตอบสนองความต้องการหรือไม่ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมายของผู้ประกอบการได้ ก็อาจจะคาดเดาได้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นในระยะยาว
ความคาดหวังควรมีความสัมพันธ์กับต้นทุนด้วย บางครั้งเจ้าของธุรกิจคาดว่า นักพัฒนาที่ประสบการณ์น้อย หรือค่าจ้างที่ถูกกว่าจะแก้ปัญหาด้านโครงสร้างเกี่ยวกับซอฟท์แวร์ได้ แต่สำหรับนักพัฒนาที่มีราคาแพง หรือราคาที่สูงกว่า และการมีการสื่อสารที่ชัดเจนและรัดกุม จะสามารถดำเนินการการปรับปรุงการการดำเนินการโครงการได้แบบปกติ และสถาปัตยกรรมของซอฟท์แวร์ที่ถูกออกแบบได้ดีกว่า และแข็งแกร่งกว่า บางครั้งปัญหาความล่าช้าของโครงการ อาจะจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ด้วยนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ และค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเป็นประจำอย่างแน่นอน
4.เข้าใจวิธีการของทีม
ในการจัดการความคาดหวังที่สมเหตุสมผล สิ่งสำคัญ ก็คือ การเข้าใจวิธีการของทีมงาน การรู้ว่าทีมพัฒนาทำงานอย่างไร บางทีมยังคงใช้วิธีการพัฒนาแบบดั้งเดิมมากกว่า แต่ทีมนักพัฒนาที่ทันสมัยส่วนใหญ่ใช้การพัฒนาแบบรวดเร็ว รูปแบบการพัฒนาเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการพัฒนาซอฟท์แวร์ระบบเดิม ๆ จากทีมพัฒนาแบบดั้งเดิม
การทำความเข้าใจรูปแบบการทำงานของทีมพัฒนา จะบอกได้ว่าเจ้าของธุรกิจให้ความสำคัญกับข้อมูลจำเพาะหรือข้อเสนอแนะแบบปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เมื่อโครงการดำเนินไปสักระยะแล้ว เมื่อเกิดการวิพากษ์วิจารณ์โปรเจ็ค ไม่ควรละเลยการแนะนำ มุ่งเน้นขอบเขตการทำงานของทีมพัฒนาให้มีความก้าวหน้า หมายความว่า แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่คุณสมบัติการใช้งานโปรแกรมแบบดั้งเดิมหรือแบบเก่าๆนั้น โครงการนั้นควรเสามารถเพิ่มเติมสิ่งต่างๆ ได้และต่อยอดการทำงานอื่นๆ ได้ในอนาคต ทีมพัฒนาซอฟท์แวร์ที่มีคุณภาพและประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่มีค่าเสมอ โดยมีทีมสนับสนุนเฉพาะสำหรับลูกค้า
เคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจ และนักพัฒนาด้านเทคโนโลยีสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์และอยู่บนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน และเพื่อสร้างความไว้วางใจกับทีมพัฒนาซอฟท์แวร์ เมื่อทั้งสองฝ่ายสามารถปรับปรุงและจัดการด้านความสัมพันธ์นี้ เมื่อเวลาผ่านไป กระบวนการพัฒนาจะทำให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
เจ้าของธุรกิจ และธุรกิจองค์กรฯ ต่างๆ สามารถขอคำปรึกษา การวิเคราะห์ธุรกิจ และการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อเข้าสู่กระบวนการ Business Transformation โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อต่อยอดธุรกิจสำหรับอนาคต
HandyWings ยินดีให้บริการและนำเสนอโซลูชั่นและเทคโนโลยีให้องค์กรและธุรกิจเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่ ยุดดิจิตัลอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน